5 อันดับ "มะเร็ง" ที่คุณเสี่ยงเป็นมากที่สุด
สถิติสุดช็อก! คนไทยตายด้วยโรคมะเร็ง 8 คนในทุกชั่วโมง
เป็นโรคอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทย!!
.
แต่มะเร็งก็ยังแบ่งยิบย่อยได้เป็นอีกหลายประเภทครับ งั้นเรามาดูกันดีกว่าครับว่า 5 อันดับโรคมะเร็งชนิดใดบ้างที่ฆ่าคนไทยมากที่สุด แล้วเราจะดูแลตัวเองได้ยังไงบ้าง
……...
#อันดับที่ 5 มะเร็งปอด
ชื่อนี้คงคุ้นหูเพื่อนๆ กันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่ เพราะบนซองบุหรี่ก็มีคำเตือนเกี่ยวกับโรคนี้อยู่ใช่ไหมล่ะครับ และการสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดถึง 85% เลยทีเดียว ในบุหรี่แค่มวนเดียวก็เต็มไปด้วยสารอันตรายมหาศาล และมีสารที่ก่อมะเร็งมากกว่า 60 ชนิด ไม่ใช่แค่บุหรี่นะครับ แต่ยาเส้น ยานัตถ์ หรือแค่ดมควันบุหรี่จากคนรอบข้างก็ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้เหมือนกัน
.
นอกเหนือจากบุหรี่ สารเคมี เช่น สารหนู ถ่านโค้ก หรือแม้แต่ควันเสียจากยานพาหนะก็ทำให้เป็นมะเร็งปอดได้ จากผลงานวิจัยพบว่า คนที่อาศัยอยู่ในย่านที่มีการปล่อยควันเสีย จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเลยนะครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่ไม่อยากเป็นมะเร็งปอด ก็ให้เริ่มต้นด้วยการไม่สูบบุหรี่ ใครที่สูบอยู่ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้เลิกได้นะครับ และอย่าลืมป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องเจอกับควันท่อไอเสียหรือเข้าไปในเขตที่มีสารเคมีด้วยนะครับ
……………..
#อันดับที่ 4 มะเร็งเต้านม
จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า มีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่ประมาณ 13,000 คนต่อปี หรือ 35 คนต่อวัน และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นทุกปีด้วยครับ จริงๆ แล้วผู้ชายก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งเต้านมได้เหมือนกัน เพียงแต่ผู้หญิงจะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าเป็นร้อยเท่า โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป และถ้าหากคนในครอบครัว เช่น แม่ พี่สาว หรือน้าสาวเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน เพื่อนๆ ก็จะมีสิทธิ์เป็นได้ด้วยเช่นกัน
.
นอกจากเพศ อายุ และพันธุกรรมแล้ว เพื่อนๆ ที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับมะเร็งรังไข่ กินฮอร์โมนและยาคุม มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้ากว่า 55 ปี ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมด้วยครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป ชอบกินอาหารไขมันสูง เคยได้รับรังสีในปริมาณสูง หรือชอบดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ก็เสี่ยงเหมือนกัน จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายปัจจัยเลยใช่ไหมล่ะครับที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม แต่เพื่อนๆ ก็ยังสังเกตอาการเบื้องต้นได้ด้วยการคลำหาก้อนเนื้อบริเวณเต้านมนั่นเองครับ แต่การให้หมอช่วยตรวจก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด หากใครรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อที่เต้านม เต้านมผิดรูปไปจากเดิม มีผื่นแดงคล้ายผิวส้มที่เต้านม มีแผลรอบหัวนม หรือรู้สึกเจ็บเต้านมก็ให้รีบหาหมอนะครับ
……………..
#อันดับที่ 3 มะเร็งปากมดลูก
มีผู้หญิงไทยกว่า 6,000 คนเสียชีวิตด้วยโรคนี้ คิดเฉลี่ยก็เท่ากับว่าตายวันละ 7 คนเลยทีเดียวครับ! ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของมะเร็งปากมดลูกก็คือการติดเชื้อไวรัส HPV นั่นเอง ที่น่ากลัวก็คือ การติดเชื้อ HPV นั้นจะไม่มีอาการที่ชัดเจนเลย จนกระทั่งมันได้พัฒนาไปเป็นเชื้อมะเร็งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ ตกขาวมากผิดปกติ ข้น มีหนอง หรือตกขาวปนเลือด ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
.
นอกจากนี้ กลุ่มผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีบุตรหลายคน กินยาคุมติดต่อกันนานเกิน 5 ปี และการไม่รักษาความสะอาดช่องคลอด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคสุดน่ากลัวนี้ได้เหมือนกันครับ ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 25-49 ปี จึงควรไปตรวจสุขภาพเพื่อหาความผิดปกติของมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 3 ปี ส่วนผู้หญิงอายุ 50-64 ปี ก็ควรไปตรวจทุกๆ 5 ปีครับ และผู้หญิงที่อายุมากกว่า 65 ปีไปแล้ว ก็ให้ไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง หากไม่เคยตรวจเมื่อตอนอายุ 50 นั่นเอง
……………..
#อันดับที่ 2 มะเร็งลำไส้ใหญ่
อันดับสองก็น่ากลัวไม่แพ้ใคร สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากสถิติพบว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิง โดยเสียชีวิตประมาณ 6,000 รายต่อปี และยังมีแน้วโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีที่โรคนี้จะส่งสัญญาณเตือนกับร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ หากเพื่อนๆ ได้รับการตรวจและรักษาก่อนที่เซลล์มะเร็งจะพัฒนาก็มีโอกาสรักษาหายได้ครับ ซึ่งสัญญาณของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่สังเกตได้ในชีวิตประจำวันก็คือ
1. ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง หากเพื่อนๆ ท้องผูกหรือท้องเสียจนเริ่มชิน นั่นแสดงว่าระบบขับถ่ายของเพื่อนๆ มีปัญหาแล้วนะครับ ถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ ก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคตได้
2. อุจจาระลีบ ก่อนจะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง ผู้ป่วยจะมีติ่งเนื้อในลำไส้เกิดขึ้นมาก่อน เมื่ออุจจาระเดินทางผ่านลำไส้ใหญ่ ติ่งเนื้อนั้นจึงบีบอุจจาระจนมีลักษณะลีบเล็กนั่นเอง
3. มีเลือดปนมากับอึ เมื่อเกิดติ่งเนื้อในลำไส้แล้ว อุจจาระแข็งของเพื่อนๆ ก็อาจจะไปเสียดสีกับติ่งเนื้อนี้จนเกิดแผลได้ เมื่ออึออกมาจึงมีเลือดติดมาด้วย
4. น้ำหนักลดผิดปกติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอะไร แต่น้ำหนักกลับลดฮวบฮาบจนรู้สึกได้ ก็แสดงว่าร่างกายของเพื่อนๆ เริ่มมีปัญหาแล้ว
5. อ่อนเพลียบ่อย ไม่สบายท้อง ปวดเกร็งที่ช่วงท้องบ่อยๆ หรือรู้สึกว่าอาหารไม่ย่อย อาการเหล่านี้ก็อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เช่นเดียวกัน
ปกติแล้ว กลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็คือ คนที่ครอบครัวเคยเป็นโรคนี้มาก่อน มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติการเป็นเนื้องอกที่ผนังลำไส้ใหญ่ครับ แต่เพราะวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เพื่อนๆ ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ชอบสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และชอบกินอาหารไขมันสูง ก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน
……………..
#อันดับที่ 1 มะเร็งตับ
และอันดับหนึ่งของเราก็คือ “มะเร็งตับ” นั่นเองครับ ในแต่ละปี มีคนไทยเสียชีวิตเพราะมะเร็งตับเป็นหมื่นๆ คนเลยทีเดียว ส่วนสาเหตุของมะเร็งตับก็คล้ายกับมะเร็งอื่นๆ คือมีสาเหตุหลากหลายมากครับ แต่หลักๆ เลยก็คือการดื่มแอลกอฮอล์ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี เป็นโรคไขมันคั่งในตับจากภาวะอ้วน โรคตับอักเสบ หรือโรคตับคั่งน้ำดี แม้กระทั่งคนที่เป็นโรคเบาหวานก็มีความเสี่ยงได้ หากไขมันที่สะสมในร่างกายเข้ามาเกาะที่ตับจนเกิดตับแข็ง
.
เพื่อนๆ เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า แค่เจ็บป่วยเป็นโรคเพียงหนึ่งโรค โรคนั้นก็อาจจุดชนวนให้เกิดเป็นมะเร็งได้ หากไม่อยากเป็นมะเร็ง เพื่อนๆ ก็จะต้องรักษาสุขภาพ ป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นโรคต่างๆ โดยอาจจะเริ่มจากวิธีง่ายๆ เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอย่าลืมระวังเครื่องปรุงรสเค็มจัดหรือเผ็ดจัดด้วยนะครับ โดยโรคมะเร็งตับในระยะแรกๆ นั้นจะไม่แสดงอาการเท่าไรครับ กว่าจะมีสัญญาณให้รู้ตัว มะเร็งก็อาจลุกลามในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งสัญญาณเหล่านั้นก็คือ
1. ปวด แน่น เจ็บท้องบริเวณท้องบนด้านขวาและลิ้นปี่
2. คลำเจอก้อนขนาดใหญ่ใต้ชายโครงข้างขวา
3. เบื่ออาหารอย่างไม่มีสาเหตุหรือน้ำหนักลดผิดปกติ
4. ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย อาจมีไข้ต่ำๆ ร่วมด้วยครับ
5. คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีเลือดออกตามผิวหนังและจมูก
6. ขาบวม ท้องโต อาจมีอาการแน่นท้องหรือท้องผูกด้วย
.
ขอบคุณข้อมูล : #ลืมป่วย
 
อ้างอิง:
 
 ดูข้อมูลเพิ่มเติม
 
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่ม นัดหมายเข้ามาดูสถานที่ ติดต่อ
KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
 
 โทร 095-884-2233 , 091-803-3071 , 02-020-1171
line แอด LINE@ สอบถามรายละเอียด @kin.rehab มี @ ข้างหน้า หรือ Click : http://bit.ly/2M5f3Id
 Youtube Channel : https://cutt.ly/TyTh3bd
 แผนที่ไป KIN : http://bit.ly/2VvPDq6
 

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab