ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุราคาถูก มีจริงไหม? หรือต้องแลกด้วยความเสี่ยง?
Nursing Home Guide • KIN Rehabilitation & Homecare

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุราคาถูก มีจริงไหม?
หรือต้องแลกด้วยความเสี่ยง?

อ่านให้จบก่อนเลือก “ราคาถูก” — เพื่อความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และโอกาสฟื้นตัวของคนที่คุณรัก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังค้นหาข้อมูลใน Google ด้วยคำว่า "ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ราคาถูก" หรือ "ค่าใช้จ่าย Nursing Home" เพื่อวางแผนงบประมาณในการดูแลคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเจ็บป่วยหรือชราภาพ คุณมาถูกทางแล้ว การตระหนักเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการวางแผนดูแลระยะยาว โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ทุกครอบครัวต้องรัดเข็มขัด

แต่ในฐานะผู้ให้บริการทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสุขภาพ เราอยากชวนคุณตั้งคำถามลึกลงไปอีกนิดว่า "ภายใต้ตัวเลขราคาที่แตกต่างกัน อะไรคือสิ่งที่ถูกตัดออกไป?" และ "ความเสี่ยงที่มาพร้อมกับความประหยัด คืออะไร?" บทความนี้ทีมงาน KIN Rehabilitation & Homecare จะพาคุณไปถอดรหัสโครงสร้างค่าบริการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้คุณเข้าใจที่มาของราคา และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่คุณรักได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย

โครงสร้างราคา เรากำลังจ่ายเงินค่าอะไรบ้าง?

เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมบางแห่งถึงทำราคาได้ถูกมาก และบางแห่งถึงมีราคาสูงกว่า เราต้องดูที่ "ต้นทุนการดำเนินงาน" ซึ่งในธุรกิจบริการสุขภาพ "คน" คือต้นทุนที่สูงที่สุดและสำคัญที่สุด

ในรูปแบบราคาประหยัด มักใช้พนักงานทั่วไป หรือแรงงานต่างด้าวในการดูแลเป็นหลัก โดยอาจมีอัตราส่วนการดูแลอยู่ที่พนักงาน 1 คน ต่อผู้สูงอายุ 8-10 ท่าน ซึ่งเน้นการดูแลขั้นพื้นฐาน ในขณะที่รูปแบบมาตรฐานการแพทย์ จะต้องมีทีมสหวิชาชีพประกอบด้วย แพทย์ พยาบาลวิชาชีพคุมโซน และนักกายภาพบำบัด เพื่อทำการฟื้นฟู ไม่ใช่แค่เฝ้าไข้ อัตราส่วนการดูแลจึงเข้มข้นกว่าเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนด้านสถานที่และอุปกรณ์ หากเน้นราคาประหยัด สถานที่มักเป็นบ้านดัดแปลงที่มีเพียงเตียงและพัดลม แต่สำหรับศูนย์มาตรฐาน จะมีการลงทุนเรื่องการออกแบบเพื่อผู้สูงอายุ (Universal Design) เช่น ทางลาด ราวจับ พื้นกันกระแทก รวมถึงระบบเรียกพยาบาลฉุกเฉิน เครื่องดูดเสมหะ เครื่องผลิตออกซิเจน และห้องกายภาพบำบัดมาตรฐานโรงพยาบาล

ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ เมื่อ "งบประมาณ" สวนทางกับ "ความปลอดภัย"

การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุราคาถูก อาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้จริง แต่ในทางการแพทย์ อาจมีความเสี่ยงบางประการที่ญาติควรทราบเพื่อเตรียมรับมือ

ความเสี่ยงแรกคือเรื่อง "แผลกดทับ" หากจำนวนคนดูแลไม่เพียงพอ การพลิกตัวผู้ป่วยติดเตียงทุก 2 ชั่วโมงอาจทำได้ยาก หรือทำได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งนำไปสู่การเกิดแผลกดทับที่รักษายากและมีค่าใช้จ่ายสูง ต่อมาคือเรื่อง "การสังเกตอาการเปลี่ยนแปลง" ผู้ดูแลที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ อาจไม่สามารถสังเกตอาการผิดปกติเล็กน้อยๆ เช่น อาการซึมลง หรือการหายใจที่ผิดปกติได้ทันท่วงที ซึ่งอาจทำให้อาการลุกลามจนต้องเข้า ICU

และที่สำคัญคือเรื่อง "โอกาสในการฟื้นตัว" หากสถานที่นั้นไม่มีนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ ผู้สูงอายุอาจเสียโอกาสในช่วงเวลาทอง (Golden Period) ในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้ กลายเป็นการนอนติดเตียงระยะยาวแทน

3 ความจริงเรื่อง "ค่าใช้จ่ายแฝง" ที่คุณต้องถาม

เพื่อให้การเปรียบเทียบราคาเป็นไปอย่างยุติธรรม เวลาสอบถามข้อมูลจากศูนย์ต่างๆ อย่าดูแค่ราคาแพ็กเกจตั้งต้น แต่ให้ถามถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มเหล่านี้ด้วย

  1. ค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง: เช่น ผ้าอ้อม แผ่นรองซับ สายยางให้อาหาร ถุงมือยาง บางแห่งราคาตั้งต้นถูก แต่บวกกำไรค่าของใช้เหล่านี้สูงมาก
  2. ค่าหัตถการ: เช่น การทำแผลกดทับ การสวนปัสสาวะ การพ่นยา ว่ามีการคิดเหมาจ่ายหรือคิดแยกเป็นรายครั้ง
  3. ค่ายาและค่ารถพยาบาล: หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีค่าบริการรถรับส่งโรงพยาบาลอย่างไร

ศูนย์ดูแลมาตรฐานส่วนใหญ่ จะมีการประเมินค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ทราบล่วงหน้า เพื่อความโปร่งใสและสบายใจของญาติ

ตารางเปรียบเทียบ Nursing Home ทั่วไป vs ศูนย์ฟื้นฟูมาตรฐาน

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราสามารถสรุปความแตกต่างได้ดังนี้ หากเป็น Nursing Home ที่เน้นราคาประหยัด เป้าหมายหลักคือการดูแลกิจวัตรประจำวันระยะยาว ผู้ดูแลหลักมักเป็นพนักงานทั่วไป และกิจกรรมเน้นนันทนาการ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่ความคุ้มค่าคือการจ่ายน้อยเพื่อประคองอาการ

ในขณะที่ศูนย์ฟื้นฟูมาตรฐาน (Rehab Center) เป้าหมายหลักคือการฟื้นฟูให้กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ดูแลหลักคือทีมสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล และนักกายภาพบำบัด กิจกรรมจะเน้นกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดเฉพาะบุคคล เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยหลังผ่าตัด ความคุ้มค่าจึงเป็นการ "จ่ายเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น"

หัวข้อ Nursing Home ทั่วไป (เน้นราคาประหยัด) ศูนย์ฟื้นฟูมาตรฐาน (Rehab Center)
เป้าหมายหลัก ดูแลกิจวัตรประจำวันระยะยาว ฟื้นฟูให้กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้
ผู้ดูแลหลัก พนักงานทั่วไป ทีมสหวิชาชีพ: แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด
กิจกรรมหลัก นันทนาการทั่วไป กายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดเฉพาะบุคคล
เหมาะกับใคร ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง Stroke, ผู้ป่วยติดเตียง, หลังผ่าตัด
ความคุ้มค่า จ่ายน้อยเพื่อประคองอาการ จ่ายเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

Q: ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ราคาเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่ามาตรฐาน?
A: ราคามาตรฐานสำหรับศูนย์ที่มีพยาบาลวิชาชีพและนักกายภาพบำบัดดูแล มักเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 - 45,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับอาการและประเภทห้องพัก) ราคานี้จะครอบคลุมความปลอดภัยและการฟื้นฟูที่ได้มาตรฐาน

Q: ดูแลที่บ้าน vs ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ แบบไหนประหยัดกว่า?
A: หากผู้ป่วยติดเตียงและต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ การดูแลที่บ้านอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงสูง เช่น ค่าเครื่องมือ ค่าจ้างคนเฝ้ากะเช้า-ดึก หรือค่าปรับปรุงบ้าน การมาอยู่ที่ศูนย์ฟื้นฟูในช่วงแรก (1-3 เดือน) เพื่อฝึกให้แข็งแรงก่อนกลับบ้าน มักเป็นการบริหารงบประมาณที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

เลือกความ "คุ้มค่า" ให้คนที่คุณรัก

ท้ายที่สุดแล้ว "ของถูก" หรือ "ของแพง" เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล แต่คำว่า "ความปลอดภัย" เป็นมาตรฐานสากล การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ไม่ใช่การมองหาตัวเลขที่ต่ำที่สุด แต่คือการมองหาที่ที่ "ไว้ใจได้ที่สุด" ว่าพ่อแม่ของเราจะได้รับการดูแลอย่างสมเกียรติ ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ที่ KIN Rehabilitation & Homecare เรามุ่งมั่นนำเสนอมาตรฐานการฟื้นฟูทางการแพทย์ ในราคาที่สมเหตุสมผลและโปร่งใส เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ครอบครัวไทยได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้สูงอายุ หากคุณต้องการปรึกษาเรื่องการดูแล หรือสอบถามโครงสร้างราคาฟื้นฟู สามารถส่งประวัติผู้ป่วยเพื่อให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ลาดพร้าว 71
(ใกล้เลียบด่วน/บางกะปิ)

โทร 091-803-3071

แบริ่ง (สุขุมวิท 107)
(บางนา–แบริ่ง–ลาซาล)

โทร 065-909-2599

พัทยา
(ชลบุรี)

โทร 082-213-9976

ราชพฤกษ์
(นนทบุรี)

โทร 065-384-5494

 

บทความ วีดีโอ สาระความรู้ การดูแลสุขภาพ อื่นๆ

KIN Rehab