4 ท่าง่าย ๆ ช่วยคลายกล้ามเนื้อหลัง

4 ท่าง่าย ๆ สำหรับคลายกล้ามเนื้อหลัง

อาการปวดหลัง กล้ามเนื้อตึง หรือความเมื่อยล้าบริเวณหลังล่างเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ขับรถเป็นเวลานาน หรือแม้แต่การยืนหรือนั่งในท่าทางที่ไม่เหมาะสมซ้ำ ๆ ทุกวัน ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กล้ามเนื้อหลังเกิดอาการล้าและอักเสบได้

โชคดีที่การยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยลดอาการปวดหลังและฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์หรือไปคลินิกกายภาพบำบัดทุกครั้ง วันนี้เราขอแนะนำ 4 ท่ายืดกล้ามเนื้อหลังง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ทำไมเราควรยืดกล้ามเนื้อหลัง?

ก่อนจะไปดูท่ายืดต่าง ๆ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมการยืดกล้ามเนื้อจึงสำคัญ และส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพของเรา:

  • ลดความตึงและปวดกล้ามเนื้อ: การยืดช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดแรงกดทับต่อกระดูกและข้อต่อ
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย: กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
  • กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต: การยืดช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ปรับสมดุลและท่าทางร่างกาย: กล้ามเนื้อหลังที่แข็งแรงและยืดหยุ่นช่วยให้เรายืน นั่ง และเดินได้อย่างสมดุล
  • ช่วยผ่อนคลายจิตใจ: การหายใจลึก ๆ ระหว่างยืดสามารถช่วยลดความเครียด และปรับอารมณ์ให้สงบขึ้น

 

ท่าที่ 1: ท่ายืดเข่าชิดอก (Knee to Chest Stretch)



ประโยชน์

ช่วยยืดกล้ามเนื้อสะโพก หลังล่าง และกระดูกสันหลังบริเวณล่าง เป็นท่าพื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังช่วงล่างหรือรู้สึกว่าหลังแข็งตึงจากการนั่งนาน

วิธีทำ

  1. นอนหงายบนพื้นหรือบนเสื่อโยคะ
  2. ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น ตั้งเท้าให้แนบกับพื้น
  3. ยกเข่าข้างหนึ่งขึ้น ใช้มือทั้งสองข้างจับเข่าแล้วดึงเข้าหาหน้าอก
  4. ค้างไว้ 5–10 วินาที จากนั้นค่อย ๆ วางขาลง
  5. ทำซ้ำข้างละ 5 ครั้ง
  6. หากต้องการยืดเพิ่ม สามารถดึงเข่าทั้งสองข้างพร้อมกันเข้าหน้าอกก็ได้

เคล็ดลับ

  • อย่ากลั้นหายใจขณะยืด
  • หายใจเข้าออกช้า ๆ และลึก ๆ
  • ไม่ควรฝืนดึงเข่าแรงเกินไป หากรู้สึกเจ็บ ให้หยุดทันที

 

ท่าที่ 2: ท่าเกร็งหน้าท้องกดหลังติดพื้น (Pelvic Tilt)



ประโยชน์

ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อแกนกลาง (core muscles) ลดอาการปวดหลังจากท่าทางที่ผิด เช่น การนั่งหลังค่อม หรือยืนแอ่นหลังมากเกินไป

วิธีทำ

  1. นอนหงาย ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น มือวางข้างลำตัว
  2. เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยพยายามกดหลังส่วนล่างให้แนบติดกับพื้น
  3. ค้างไว้ 5 วินาที แล้วผ่อนคลาย
  4. ทำซ้ำ 5–6 ครั้ง

เคล็ดลับ

  • ควบคุมลมหายใจในขณะเกร็งกล้ามเนื้อ
  • ไม่จำเป็นต้องยกสะโพกขึ้นจากพื้น เพียงแค่เกร็งแล้วกดหลังลงพอ
  • หากรู้สึกตึงกล้ามเนื้อหน้าท้อง ถือว่าทำถูกต้อง

 

ท่าที่ 3: ท่าแมว-วัว (Cat-Cow Stretch)



ประโยชน์

เป็นท่าโยคะยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง ทำให้กล้ามเนื้อหลังค่อย ๆ ผ่อนคลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังจากการยืนนานหรือเคลื่อนไหวผิดท่า

วิธีทำ

  1. ตั้งท่าคลาน โดยวางมือไว้ใต้หัวไหล่ และเข่าใต้สะโพก
  2. หายใจเข้า พร้อมกับแหงนหน้า เงยอก กดหน้าท้องลง (ท่าวัว)
  3. หายใจออก โก่งหลังขึ้น ก้มศีรษะมองสะดือ (ท่าแมว)
  4. สลับกันช้า ๆ 10–15 ครั้ง

เคล็ดลับ

  • ทำอย่างช้า ๆ ควบคุมการเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับลมหายใจ
  • ไม่ต้องแอ่นหรือโก่งหลังเกินกำลัง
  • ท่านี้เหมาะทั้งก่อนออกกำลังกายและหลังเลิกงานเพื่อลดความเครียดจากกล้ามเนื้อ

 

ท่าที่ 4: ท่ายืนแตะปลายเท้า (Standing Forward Bend)



ประโยชน์

ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (hamstrings) และช่วยลดความตึงของกระดูกสันหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกเมื่อยล้า หรือนั่งทั้งวันโดยไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ

วิธีทำ

  1. ยืนตรง เท้าชิดกัน แขนแนบลำตัว
  2. ค่อย ๆ โน้มตัวลงช้า ๆ พยายามใช้มือแตะปลายเท้า
  3. หากแตะไม่ถึง ไม่เป็นไร ให้ยืดให้สุดเท่าที่ทำได้
  4. รักษาขาให้ตรง หลังไม่งอ
  5. ค้างไว้ 10–15 วินาที แล้วกลับขึ้นอย่างช้า ๆ
  6. ทำซ้ำ 5 ครั้ง

เคล็ดลับ

  • ระวังไม่ให้ศีรษะต่ำลงอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้หน้ามืด
  • ห้ามกระตุกหรือเด้งตัวในขณะโน้มลง ให้ทำอย่างช้า ๆ
  • หายใจลึก และอย่าเกร็งคอหรือไหล่

 

ทำอย่างไรให้ได้ผลสูงสุด?

แม้แต่ละท่าจะดูง่าย แต่การทำให้ได้ผลดีที่สุดจำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียด:

  1. ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุดควรทำเป็นประจำทุกวัน วันละ 1–2 ครั้ง (เช้าและเย็น)
  2. โฟกัสที่การหายใจหายใจลึก ๆ และสม่ำเสมอ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น
  3. ฟังเสียงร่างกายหากรู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย อย่าฝืน ให้หยุดทันที
  4. อบอุ่นร่างกายก่อนแม้เป็นการยืดเบา ๆ แต่การเคลื่อนไหวเบื้องต้น เช่น เดินเบา ๆ 3–5 นาที จะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ
  5. ไม่ต้องรีบร้อนค่อย ๆ เพิ่มเวลาค้างท่า และจำนวนครั้งเมื่อร่างกายเริ่มยืดหยุ่นขึ้น

 

ข้อควรระวัง

  • หากมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงหรือมีประวัติหมอนรองกระดูกเคลื่อน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • อย่าฝืนร่างกายจนเกินไป ความรู้สึก "ตึง" คือสิ่งที่ควรรู้สึก ไม่ใช่ "เจ็บ"
  • หลีกเลี่ยงการยืดในช่วงที่ร่างกายยังเย็น เช่น เพิ่งตื่นนอน ควรขยับตัวให้ร่างกายอุ่นก่อน

 

แม้จะดูเป็นท่าที่ง่ายและใช้เวลาไม่นาน แต่การยืดกล้ามเนื้อหลังด้วยท่าทางที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ลดความตึงของกล้ามเนื้อ และฟื้นฟูสมดุลของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคที่หลายคนต้องทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน หรือมีกิจกรรมประจำวันที่ทำให้หลังต้องทำงานหนัก

เพียงแค่คุณลงทุนเวลากับตัวเองวันละไม่เกิน 10 นาที ก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับสุขภาพหลังและคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้แล้ว ลองเริ่มวันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าแค่ “ยืด” วันละนิด ก็สุขภาพดีขึ้นได้จริง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

 


โปรโมชั่นฝากดูแลผู้สูงอายุ ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ฟื้นฟูหลังผ่าตัด


โปรโมชั่น ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ฟื้นฟูหลังผ่าตัด ฝากดูแลผู้สูงอายุ ที่อยู่ที่ศูนย์และไปทำที่บ้าน....

อ่านต่อ...


โปรโมชั่น คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด

เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Rehabilitation) กายภาพบำบัด กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด  เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย...

อ่านต่อ...


โปรโมชั่น คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย คืนความอ่อนเยาว์


โปรโมชั่นเวชศาสตร์ชะลอวัย คืนความอ่อนเยาว์ ดูแลผิวพรรณและความงาม พร้อมบริการดริปวิตามิน ช่วยเพิ่มความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย เสริมสร้างความสมดุลทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้คุณกลับมารู้สึกอ่อนเยาว์อีกครั้ง..

อ่านต่อ...

แนะนำท่าออกกำลังกาย กายภาพบำบัด อื่นๆ

KIN Rehab