6 โรคยอดฮิตที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังและโรคเสื่อมต่าง ๆ มากขึ้น เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามวัย รวมถึงปัจจัยด้านพฤติกรรมสุขภาพและโรคประจำตัวที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงวัยหนุ่มสาว โดยโรคยอดฮิตที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ 6 อันดับแรก (แหล่งข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี, บางปะกอก 3, และแหล่งสุขภาพอื่นๆ ยืนยันว่าทั้ง 6 โรคนี้เป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทย) ได้แก่
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
ภาวะที่สมองขาดเลือดเนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองถูกทำลาย เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน อาการเตือน เช่น พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง - โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease)
เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้หัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวาย เจ็บหน้าอก หรือหัวใจล้มเหลว อาการเด่นคือเจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย - โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the Knee)
เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ทำให้ปวดเข่า ข้อฝืด เดินลำบาก หากรุนแรงอาจเดินไม่ได้ - โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
พบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน แต่หากปล่อยทิ้งไว้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และไตวายเรื้อรัง - โรคอัลไซเมอร์/สมองเสื่อม (Alzheimer’s Disease/Dementia)
ภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมอง ทำให้ความจำเสื่อมลง มีอาการหลงลืม สับสน บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด - โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
เกิดจากความผิดปกติของการผลิตหรือการทำงานของอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ไตวาย ตาบอด
การเฝ้าระวังและตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่เหมาะสม และควบคุมโรคประจำตัว จะช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดโรคเหล่านี้ได้
อาการที่ควรสังเกต แนวทางป้องกัน และรักษา ใน 6 โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
อาการที่ควรสังเกต
- ใบหน้าบิดเบี้ยว มุมปากตก
- แขนหรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
- พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ หรือพูดแล้วไม่รู้เรื่อง
- เดินเซ เวียนศีรษะ
- เห็นภาพซ้อนหรือมองไม่ชัด
แนวทางป้องกัน
- ควบคุมความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่ดีต่อหลอดเลือด
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปี
แนวทางการรักษา
- รีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ
- ใช้ยาละลายลิ่มเลือดหรือรักษาตามแนวทางที่แพทย์แนะนำ
- ทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ
อาการที่ควรสังเกต
- เจ็บแน่นหน้าอก คล้ายถูกกดหรือบีบรัด
- อาการเจ็บลามไปที่แขน คอ หรือกราม
- เหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก
- เหงื่อออกมาก ใจสั่น
แนวทางป้องกัน
- ควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิต และไขมัน
- รับประทานอาหารไขมันต่ำ
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
แนวทางการรักษา
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
- ในบางกรณีอาจต้องทำหัตถการ เช่น ขยายหลอดเลือดหัวใจ
.png)
อาการที่ควรสังเกต
- ปวดเข่าเวลาเดิน ลุก นั่ง หรือขึ้นลงบันได
- ข้อเข่าฝืด โดยเฉพาะหลังตื่นนอนหรือนั่งนาน
- มีเสียง "กรอบแกรบ" เมื่อขยับเข่า
- ข้อเข่าบวม ผิดรูป หรือเดินลำบาก
แนวทางป้องกัน
- ควบคุมน้ำหนักตัว
- ออกกำลังกายแบบไม่กระแทก เช่น ว่ายน้ำ
- หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้ข้อเข่ารับน้ำหนักมาก เช่น นั่งยอง
แนวทางการรักษา
- ใช้ยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง
- ทำกายภาพบำบัด
- ผ่าตัดเปลี่ยนข้อในกรณีที่มีอาการรุนแรง
อาการที่ควรสังเกต
- มักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก
- อาจมีอาการปวดศีรษะ มึนงง เหนื่อยง่าย
- จมูกเลือดออก หรือสายตาพร่ามัวในบางราย
แนวทางป้องกัน
- ลดการบริโภคเกลือและอาหารรสจัด
- ควบคุมน้ำหนัก
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจวัดความดันเป็นประจำ
แนวทางการรักษา
- รับประทานยาลดความดันตามแพทย์สั่ง
- ปรับพฤติกรรมสุขภาพควบคู่ไปด้วย
อาการที่ควรสังเกต
- ความจำระยะสั้นลดลง ลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
- หลงทางในสถานที่คุ้นเคย
- วางของผิดที่หรือใช้คำพูดผิด
- บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง อารมณ์แปรปรวน
แนวทางป้องกัน
- กระตุ้นสมองด้วยการอ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกคิด
- เข้าร่วมกิจกรรมสังคม พบปะผู้คน
- ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน
แนวทางการรักษา
- ใช้ยาชะลอความเสื่อมของสมอง
- กระตุ้นสมองผ่านกิจกรรมต่าง ๆ และการเข้าสังคม
อาการที่ควรสังเกต
- ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย หิวบ่อย
- น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ
- เหนื่อยง่าย แผลหายช้า
- มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า ตาพร่ามัว
แนวทางป้องกัน
- ควบคุมน้ำหนัก
- รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลต่ำ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง
แนวทางการรักษา
- รับประทานยาหรือฉีดอินซูลินตามแพทย์สั่ง
- ควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม และออกกำลังกายเป็นประจำ
แนวทางดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม
- รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ลดเค็ม ลดหวาน ลดไขมัน
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างเหมาะสม
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- กระตุ้นสมองและดูแลสุขภาพจิต
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุส่วนใหญ่สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดได้ หากมีการเฝ้าระวัง สังเกตอาการตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และใส่ใจในการปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี แข็งแรง และพึ่งพาตนเองได้ไปนานเท่าที่จะเป็นไปได้