ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกต้องฝึกอะไรบ้าง?
ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก (Hemiplegia) มักเกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้ร่างกายด้านหนึ่งอ่อนแรงหรือเคลื่อนไหวได้น้อยลง การฟื้นฟูจึงจำเป็นต้องดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทั้งในโรงพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟู และที่บ้าน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยกลับมาช่วยเหลือตัวเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รายละเอียดที่ควรเน้นมีดังนี้
- ฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น แขน ขา ข้อศอก ข้อมือ ข้อเท้า เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ ป้องกันข้อติด โดยใช้มือข้างดีช่วยเคลื่อนข้างอ่อนแรง ยืดค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที
- ฝึกใช้งานมือและนิ้ว เช่น บีบลูกบอล จับช้อน เขียนหนังสือ เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและการประสานงานของกล้ามเนื้อ
- ฝึกลุกขึ้นนั่ง ยืน เดิน เริ่มจากการฝึกท่าอย่างปลอดภัย มีพยุงหรือใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น วอล์คเกอร์ ไม้เท้า จากนั้นค่อยลดการพึ่งพาอุปกรณ์เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
- ฝึกเดินขึ้นลงบันได โดยขึ้นด้วยข้างที่ดีและลงด้วยข้างที่อ่อนแรงก่อน ช่วยลดความเสี่ยงการล้ม
.png)
2. การฝึกกิจวัตรประจำวัน (ADL)
- ฝึกการทำกิจวัตรพื้นฐาน เช่น แต่งตัว แปรงฟัน อาบน้ำ ทานอาหาร ด้วยตนเอง โดยใช้อุปกรณ์ช่วยหากจำเป็น เช่น ช้อนส้อมด้ามจับใหญ่ เสื้อผ้าสวมง่าย
- ฝึกการเคลื่อนย้ายตัว เช่น พลิกตัว ลุกนั่งจากเตียง ย้ายจากเตียงไปเก้าอี้ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดการพึ่งพาผู้อื่น
- การกลืน: ผู้ป่วยบางรายมีภาวะกลืนลำบาก ควรเริ่มจากอาหารอ่อนหรือกึ่งเหลว เช่น โจ๊ก ไข่ตุ๋น ฝึกกลืนอย่างปลอดภัยโดยนักกลืนบำบัด
- การพูด: ฝึกออกเสียงและขยับปาก ลิ้น ด้วยการเป่าลูกโป่ง เป่าฟองสบู่ ฝึกออกเสียงพยัญชนะต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูการพูด
.png)
4. การดูแลสภาพจิตใจ
- ผู้ป่วยมักรู้สึกหดหู่ สูญเสียความมั่นใจ จึงควรได้รับกำลังใจจากครอบครัว และร่วมกิจกรรมสันทนาการ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง พบปะเพื่อน
- นักจิตวิทยาหรือกิจกรรมบำบัดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยปรับตัวได้ดีขึ้น
5. การปรับสิ่งแวดล้อม
- ปรับบ้านให้ปลอดภัย เช่น ติดราวจับ พื้นไม่ลื่น แสงสว่างเพียงพอ ห้องน้ำควรมีราวจับและพื้นกันลื่น
- จัดวางของใช้ในตำแหน่งที่หยิบง่าย ลดการเอื้อมหรือก้มมากเกินไป เช่น โต๊ะข้างเตียง ชั้นวางของ
- ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โดยรับประทานยาสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารเหมาะสม เช่น ผัก ผลไม้ ลดของมัน ของทอด เค็ม
- นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ และพบแพทย์ตามนัด
เปรียบเทียบการดูแลผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก ด้วยการจ้างคนดูแลที่บ้านกับศูนย์ดูแล ควรเลือกอะไร
การตัดสินใจเลือกวิธีดูแลผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกขึ้นกับสภาพร่างกายผู้ป่วย ความพร้อมของครอบครัว งบประมาณ และความต้องการเฉพาะด้าน โดยมีข้อเปรียบเทียบดังนี้
ประเด็น |
ดูแลที่บ้าน |
ศูนย์ฟื้นฟู |
ความคุ้นเคย |
สภาพแวดล้อมคุ้นเคย ไม่ต้องปรับตัว |
อาจรู้สึกเหงา ต้องปรับตัวกับที่ใหม่ |
ความสะดวกครอบครัว |
อยู่ใกล้ชิด ไม่ต้องเดินทาง |
ลดภาระ ไม่ต้องลางานดูแล |
คุณภาพการดูแล |
ขึ้นกับความรู้ของผู้ดูแล |
มีทีมสหวิชาชีพดูแลครบ |
ค่าใช้จ่าย |
ยืดหยุ่นตามระดับบริการ |
รายเดือนค่อนข้างสูง |
ความเป็นส่วนตัว |
มีมาก เพราะอยู่บ้าน |
มีข้อจำกัดร่วมกับผู้ป่วยอื่น |
ความปลอดภัย |
ต้องปรับบ้านให้เหมาะ |
มีอุปกรณ์และบุคลากรพร้อม |
สรุป
- หากอาการไม่รุนแรง ครอบครัวพร้อมและบ้านปรับได้ การดูแลที่บ้านจะมีข้อดีในด้านอารมณ์และความคุ้นเคย
- หากอาการรุนแรง ต้องการการฟื้นฟูเร่งด่วน หรือไม่มีคนดูแลใกล้ชิด ศูนย์ฟื้นฟูที่มีทีมวิชาชีพจะเหมาะสมกว่า
สิ่งที่ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกควรทำหลังกลับบ้าน
เมื่อผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้แล้ว การฟื้นฟูต้องดำเนินต่อไปเพื่อป้องกันการเสื่อมถอยและเพิ่มความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
- ทำตามโปรแกรมการฟื้นฟูที่นักกายภาพบำบัดกำหนด เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การเดิน การทรงตัว
- ฝึก ADL ด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ใช้เทคนิคหรืออุปกรณ์ที่ช่วยลดภาระข้างอ่อนแรง
- ติดราวจับในห้องน้ำ บริเวณบันได พื้นควรแห้งไม่ลื่น แสงสว่างเพียงพอ
- ปรับเตียงนอนให้มีความสูงพอเหมาะและมีราวกั้นสำหรับพยุง

3. สุขภาพและสุขอนามัย
- ตรวจสุขภาพประจำปี ควบคุมโรคประจำตัว
- ดูแลความสะอาดร่างกาย ตัดเล็บเป็นประจำ ป้องกันแผลกดทับหากนอนนาน
- ฝึกเปลี่ยนท่าอย่างปลอดภัย เช่น ลุกจากเตียง นั่งเก้าอี้ ใช้เทคนิคถูกต้องตามที่นักกิจกรรมบำบัดแนะนำ
- สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น ทำอาหารง่าย ๆ พับผ้า หรือดูแลต้นไม้
- พูดคุย ให้กำลังใจ และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยตัดสินใจด้วยตัวเอง
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น พูดไม่ชัด ปวดศีรษะเฉียบพลัน หรืออ่อนแรงมากขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ทันที
- พบแพทย์ตามนัด ตรวจประเมินซ้ำทุกระยะ
- ปรึกษานักกายภาพบำบัดและนักกิจกรรมบำบัดอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนฟื้นฟูให้เหมาะกับความสามารถที่เปลี่ยนไป
การฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง ความร่วมมือจากครอบครัว และการดูแลจากทีมสหวิชาชีพ ทั้งด้านกายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด การฝึกการพูด การดูแลจิตใจ และการจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ผู้ป่วยแต่ละรายมีความต้องการเฉพาะตัว จึงต้องประเมินและวางแผนฟื้นฟูให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเลือกดูแลที่บ้านหรือศูนย์ฟื้นฟู จุดสำคัญคือการส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว